ผู้ว่าฯอัศวิน โชว์ภาพนำสายสื่อสารถนนชิดลมลงดิน

ผู้ว่าฯอัศวิน โชว์ภาพนำสายสื่อสารถนนชิดลมลงดิน

อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯ กรุงเทพมหานคร ชี้แจงความคืบหน้าแผนงาน ปรับทัศนียภาพ ถนนชิดลม นำสายไฟฟ้า สายสื่อสาร ลงใต้ดิน อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพฯ ออกมาอัปเดตการนำสายสื่อสารลงดิน ที่ล่าสุดเจ้าตัวโพสต์อัปเดตพร้อมลงภาพล่าสุดของ ถนนชิดลม ที่ได้มีการนำสายสสื่อสารและสายไฟฟ้าทั้งหมดลงใต้ดินแล้ว

โพสต์ของผู้ว่าฯ อัศวิน ระบุดังนี้ “ถนนชิดลม เป็นถนนอีกสายหนึ่งที่มีการจัดระเบียบนำสายไฟฟ้าลงใต้ดิน 

มีสภาพแปลกตาไปจากเดิมมาก โดยถนนชิดลมเป็นหนึ่งในพื้นที่ที่ กทม.ร่วมกับการไฟฟ้านครหลวง, สำนักงาน กสทช., บริษัท ทีโอที จำกัด และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปลี่ยนระบบสายไฟฟ้าและสายสื่อสารโทรคมนาคมแบบสายอากาศเป็นระบบสายใต้ดิน”

“ทำให้ไม่มีปัญหาสายสาธารณูปโภคที่ห้อยต่ำ ระโยงระยา และอยู่ใกล้กับประชาชนที่อาจก่อให้เกิดอันตรายแก่ผู้ที่สัญจรผ่านไปมาสร้างความปลอดภัยและปรับทัศนียภาพให้สวยงามมากขึ้น

กทม.ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จะเดินหน้าสำรวจ ถนน ซอย ที่มีความพร้อมเพื่อนำสายไฟฟ้าและสายสื่อสารลงใต้ดินในทุกพื้นที่ของ กทม. เพื่อทัศนียภาพที่สวยงาม และสร้างความปลอดภัยให้กับผู้ใช้รถใช้ถนน และคนเดินเท้า และเพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อยให้กับ กทม.”

“ที่ผ่านมา กทม.ได้นำสายไฟฟ้าและสายสื่อสารลงใต้ดินแล้วจำนวน 21 เส้นทาง ระยะทางรวม 133,050 เมตร เช่น ถนนราชปรารภ ถนนพหลโยธินและถนนลาดพร้าว ถนนรัชดาภิเษกถึงถนนพระราม 9 และถนนรัชดาภิเษกถึงถนนอโศก ถนนพระราม 4 ถนนพระราม 3 ถนนจรัญสนิทวงศ์ ถนนวิทยุ ถนนนานาเหนือ ถนนชิดลม”

“และเดินหน้านำไฟฟ้าและสายสื่อสารลงดินอีกมากกว่า 20 เส้นทาง ระยะทางรวมกว่า 250 กิโลเมตร ปรับเปลี่ยนระบบสายสื่อสารของกรุงเทพมหานครแบบแขวนอากาศเพิ่มเติมอีกภายใน 3 ปี โดยให้กรุงเทพธนาคมช่วยดำเนินการอีก 2,228.07 กิโลเมตร จะทำให้ กทม.เป็นเมืองที่มีความเป็นระเบียบเรียบร้อยและเพิ่มความปลอดภัยจากสายไฟและสื่อสารในภาพรวมมากขึ้น”

วินาทีประวัติศาสตร์ อนุทิน เซ็น ปลดล็อกกัญชา ถอดกัญชาและกัญชงจากลิสต์สารเสพติดให้โทษ มีผลใช้ใน 120 วัน วอนขอให้ประชาชน ใช้ประโยชน์อย่างถูกต้อง

นาย อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการ สธ. เป็นประธานในพิธีลงนามประกาศกระทรวงสาธารณสุข ในการลงนามประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง ระบุชื่อยาเสพติดให้โทษในประเภทที่ 5 พ.ศ.2565 ปลดกัญชาออกจากยาเสพติด

‘ประยุทธ์’ ขอบคุณ สหรัฐส่งอุปกรณ์ป้องกันโควิด ให้ไทยเพิ่ม

โฆษกสำนักนายก เผย ประยุทธ์ ขอบคุณ สหรัฐส่งอุปกรณ์ป้องกันโควิด ให้กับประเทศเพิ่ม เผยสหรัฐช่วยเหลือไทยเป็นมูลค่ากว่า 409 ล้านบาท นาย ธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ขอบคุณรัฐบาลสหรัฐฯ และนายไมเคิล ฮีธ อุปทูตรักษาการแทนเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย

สำหรับการส่งมอบอุปกรณ์เพิ่มเติมในการตรวจวินิจฉัยและการฉีดวัคซีนมูลค่ากว่า 1.5 ล้านเหรียญสหรัฐ (49.5 ล้านบาท) ให้แก่ประเทศไทยในการต่อสู้โรคโควิด-19 โดยน้ำใจไมตรีของสหรัฐฯ สะท้อนให้เห็นถึงมิตรภาพและความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นของไทย-สหรัฐฯ มาเป็นระยะเวลายาวนาน รวมถึงความมุ่งมั่นของรัฐบาลทั้งสองประเทศที่ต้องการแก้ไขสถานการณ์ของโรคโควิด-19 ร่วมกัน

โฆษกรัฐบาลกล่าวว่า สถานเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ได้ส่งมอบอุปกรณ์ในนามขององค์การเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศของสหรัฐอเมริกา (United States Agency for International Development: USAID) ซึ่งประกอบด้วยน้ำยาตรวจหาเชื้อโควิด-19 ด้วยวิธี RT-PCR และตรวจหาการกลายพันธุ์ด้วยเทคโนโลยี NGS (Next Generation Sequencing) อุปกรณ์สำหรับการฉีดวัคซีน และชุดป้องกันร่างกายส่วนบุคคล

โดยส่งมอบให้แก่นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ณ กระทรวงสาธารณสุข เมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2565 ซึ่ง USAID ได้มอบความช่วยเหลือให้แก่รัฐบาลไทยในการรับมือกับโรคโควิด-19 แล้ว กว่า 12.4 ล้านเหรียญสหรัฐ (409 ล้านบาท) ผ่านหน่วยงานต่าง ๆ ของรัฐบาลสหรัฐฯ พร้อมยังสนับสนุนไทยส่งเสริมศักยภาพในการวินิจฉัยโรคติดเชื้ออุบัติใหม่

ในช่วงแรกของการระบาด มอบอุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคลให้แก่เจ้าหน้าที่สาธารณสุขของไทย สื่อสารข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับโรคโควิด-19 แก่แรงงานข้ามชาติและบุคคลในชุมชนที่มีความเสี่ยงสูง รวมถึงเสริมสร้างศักยภาพในการวินิจฉัยและกำลังคนในการตรวจโรค

“การส่งมอบการช่วยเหลือของสหรัฐฯ นับตั้งแต่การบริจาควัคซีนและการส่งมอบอุปกรณ์เพิ่มเติมในครั้งนี้ รวมถึงความช่วยเหลือที่มีมายาวนาน ช่วยเพิ่มขีดความสามารถและความมั่นคงทางด้านสาธารณสุขไทยในการรับมือกับโรคอุบัติใหม่ และจะมีส่วนสำคัญในการลดอัตราการระบาดของโรคโควิด-19 และการตรวจหาการกลายพันธุ์ของเชื้อโควิด-19 ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น รัฐบาลจะบริหารจัดการอุปกรณ์เพิ่มเติมที่ได้รับนี้อย่างเหมาะสม และเกิดประโยชน์กับประชาชนคนไทยอย่างสูงสุดต่อไป” นายธนกรฯ กล่าว

โดยนาย อนุทิน กล่าวว่า วันนี้เป็นอีกหนึ่งหน้าประวัติศาสตร์ใหม่ที่สำคัญ เป็นการลงนามประกาศกระทรวงสาธารณสุข เพื่อปลดล็อกกัญชา กัญชง ออกจากยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 5 (ยส.5) โดยเจตนารมย์หลักคือ การใช้เพื่อการแพทย์ เพื่อให้ประชาชนเข้าถึงการใช้กัญชาเพื่อรักษาสุขภาพของตนเอง และการต่อยอดให้เป็นพืชเศรษฐกิจ

Credit : แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว | แต่งบ้านและสวน | พระเครื่อง | รีวิวกล้องถ่ายรูป